อภิมหาอมตะพ่อมดอีกคนหนึ่งของโลก ผู้ซึ่งมีความยิ่งใหญ่ในยุคสมัยของเขา เทียบได้กับอัลบัส ดัมเบิลดอร์แห่งยุคปัจจุบันเลยทีเดียว เมอร์ลินได้รับการยกย่องว่าเป็นพ่อมดซึ่งเฉลีบวฉลาดที่สุดเท่าที่เคยมีมา เขาเป็นพ่อมดใหญ่มีความเชี่ยวชาญในวิทยาการหลายแขนง ทำงานเป็นทีปรึกษาให้แก่กษัตริย์ของอังกฤษหลายพระองค์ ทั้งกษัตริย์วอร์ดิเกิร์น กษัตริย์อูเธอร์ เพนดรากอน แต่ที่โด่งดังที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นกษัตริย์อาเธอร์
ชีวประวิติของพ่อมดเมอร์ลินมีเค้าโครงบางอย่างที่พอจะยืนยันได้ว่ามีตัวตนอยู่จริง ตำนานมหัศจรรย์เกี่ยวกับพ่อมดเมอร์ลินมีอยู่มากมายเล่ากันว่า เขาคือผู้จัดเรียงก้อนหินมหึมาที่สโตนเฮนจ์ เพื่อเป็นที่ระลึกแก่เหล่าทหารของกษัตริย์อาเธอร์ บ้างก็ว่าเมอร์ลินสามารถหยั่งรู้อนาคตได้อย่างชัดแจ้ง เนื่องจากเขาเป็นผู้ที่มีชีวิตย้อนหลัง กล่างคือคนทั่วไปจะใช้ชีวิตจากอดีตไปสู่อนาคต แต่เมอร์ลินจะใช้ชีวิตจากอนาคตย้อนมาสู่อดีต เมื่อเขาเคยผ่านอนาคตมาก่อนแล้ว จึงทำให้ทราบเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อไป
บทบาทของพ่อมดเมอร์ลินที่คนทั่วโลกจดจำได้ คือการเป็นอาจารย์และเป็นที่ปรึกษาให้แก่กษัตริย์อาเธอร์ สมัยที่กษัตริย์อาเธอร์ยังเป็นทารกแบเบาะอยู่นั้น ก็โดนคำสั่งจากพระราชบิดาให้ประหารชีวิต เมอร์ลินก็เป็นผู้ช่วยชีวิตและหาที่หลบซ่อนให้แก่อาเธอร์น้อย เช่นเดียวกันกับดัมเบิลดอร์ที่ซ่อนตัวแฮร์รี่ พอตเตอร์เอาไว้จากโวลเดอมอร์ กวีชื่อว่า อัลเฟรด ลอร์ด เทนนีสัน ได้เล่าถึงตำนานตอนนี้เอาไว้ในบทกวีชื่อ Idylls of the King ดังนี้
ท่ามกลางความโศกเศร้าและเหงาหงอย
อาเธอร์น้อยกำเนิดมาน่าสงสาร
ต้องหลบซ่อนตัวตนให้พ้นพาล
อยู่กับท่านเมอร์ลินสิ้นกังวล
ด้วยอูเธอร์ผู้บิดาจิตป่าเถื่อน
ร้ายเสมือนสัตว์ป่าน่าฉงน
เหลิงอำนาจเกรงลูกชายทำลายตน
จึงคิดฆ่าเพื่อให้พ้นทางตนไป
เมอร์ลินนำเด็กน้อยให้แอนตัน
ผู้ผูกพันกับอูเธอร์เกลอรุ่นใหญ่
เซอร์แอนตันกับภรรยามีน้ำใจ
เลี้ยงอาเธอร์ด้วยห่วงใยและเมตตา
ส่วนกษัตริย์อูเธอร์ผู้เห่อเหิม
นับวันเพิ่มความร้ายกาจพิฆาตฆ่า
อาณาจักรล่มสลายไม่นำพา
หายนะสู่ประชาน่าเศร้าใจ
เมื่อกษัตริย์อาเธอร์เติบใหญ่ขึ้นมา เมอร์ลินก็ยืนหยัดอยู่เคียงข้างเขาเสมอ กษัตริย์อาเธอร์เอาชนะศัตรูแห่งอังกฤษมาได้นับครั้งไม่ถ้วน เพราะอาศัยสติปัญญาอันฉลาดและเวทมนตร์วิเศษของพ่อมดเมอร์ลินคอยช่วยเหลือ เมื่อหมดสิ้นยุคสมัยของกษัตริย์อาเธอร์ พ่อมดเมอร์ลินก็หายสาบสูญไป บางตำนานเล่าว่า เมอร์ลินถูก เลดี้ ออฟ เดอะ เลค ผู้ซึ่งเป็นสตรีที่เขาหลงรัก ล่อลวงให้ไปสร้างเสาวิเศษ แล้วเธอก็ใช้เสาวิเศษนั้นจองจำเมอร์ลินอยู่ที่นั่นไปชั่วนิรันดร์
มอร์กาน่า (Morgana)
ชื่อของมอร์กาน่า ในบางครั้งอาจเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งคือ มอร์แกน เลอ เฟย์ เธอเป็นหญิงงามคนหนึ่งในเทพนิยายของอังกฤษ ผู้ซึ่งมีอำนาจวิเศษในการรักษาโรค มอร์กาน่าเกิดร่วมสมัยกับกษัตริย์อาเธอร์แห่งอัศวินโต๊ะกลม บางตำนานก็เล่าว่าเธอเป็นน้องสาวของกษัตริย์อาเธอร์ และมีอาจารย์สอนเวทมนตร์คนเดียวกันกับเขา ซึ่งก็คือ พ่อมดเมอร์ลิน อย่างไรก็ดี มอร์กาน่ามักแสดงความเป็นปฏิปักษ์กับกษัตริย์อาเธอร์อยู่เสมอ ครั่งหนึ่งเธอเคยแอบโขมยดาบวิเศษของกษัตริย์อาเธอร์ที่ชื่อว่าดาบเอกซ์คาลิเบอร์ และถึงขนาดวางแผนที่จะสังหารเขาเลยทีเดียว
ลือกันว่า มอร์กาน่าอาศัยอยู่ในแถบชายฝั่งทะเลในอิตาลี ในบริเวณช่องแคบเมสสิน่า ท้องทะเลแถบนี้จะมีทิศทางการไหลของน้ำค่อนข้างแปลก และมักจะพัดเอาสัตว์เรืองแสงจากใต้ทะเลลึกขึ้นมาบนผิวน้ำ ทำให้เกิดเห็นเป็นแสงประหลาดระยิบระยับอยู่เหนือผิวน้ำเต็มไปหมด ชาวเรือจึงเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า ฟาต้า มอร์กาน่า คำว่า "ฟาต้า" เป็นภาษาอิตาลี แปลว่า นางฟ้า
พาราเซลซัส (Paracelsus)
พาราเซลซัส มีชื่อเต็มว่า ฟิลิปปุส ออเรโอลัส พาราเซลซัส เกิดที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อปี ค.ศ. 1493 เขาเป็นผู้ริเริ่มวิชาเคมีและการแพทย์สมัยใหม่ เป็นคนแรกที่ค้นพบการรักษาโรคลมบ้าหมู (เดิมทีเชื่อกันว่าเป็นอาการที่เกิดจากความผิดปกติของจิต) ค้นพบอาการของโรคซิฟิลิส การนำมอร์ฟีนมาใช้เพื่อระงับความเจ็บปวด ฯลฯ
พาราเซลซัสเริ่มต้นการทำงานโดยการเป็นแพทย์ จากนั้นเขาจึงได้เริ่มศึกษาเกี่ยวกับเวทมนตร์ โดยเฉพาะการเล่นแร่แปรธาตุและการพยากรณ์ ชื่อเสียงของพาราเซลซัสเกี่ยวข้องทั้งทางการแพทย์ และความเป็นพ่อมดผู้วิเศษอย่างแยกกันไม่ออก เขาปฏิเสธที่จะจำกัดตัวเองอยู่กับการศึกษาทางการแพทย์เพียงอย่างเดียว พาราเซลซัสจึงทำการพัฒนาเพื่อหาวิธีการรักษาโรคด้วยตัวของเขาเองจากศาสตร์แขนงต่าง ๆ เขาถูกกล่างหาว่าเป็นพวกพ่อมดหมอผี แต่เขาไม่สนใจคำวิจารณ์เหล่านั้น เขากล่าวว่า "มหาวิทยาลัยไม่ได้สอนทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่เรา ดังนั้นผู้ที่เป็นแพทย์จะต้องเรียนรู้จากคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นหญิงชรา พวกยิปซี พ่อมด ชนเผ่าเร่ร่อน หรือแม้กระทั่งพวกนอกกฎหมาย จึงจะได้รับความรู้อันแท้จริง แพทย์ที่ดีต้องเป็นนักเดินทางด้วย เพราะความรู้ที่แท้จริงก็คือประสบการณ์นั่นเอง"
พาราเซลซัสได้พัฒนาวิธีการรักษาโรคที่มีประโยชน์ขึ้นมามากมาย ค้นพบสาเหตุของโรคปอดอักเสบ โรคของคนงานเหมืองแร่ที่เกิดจากการสูดดมฝุ่นละออกของโลหะหนักเข้าไป ซึ่งสมัยก่อนถือกันว่าโรคนี้เกิดจากวิณญาณอันชั่วร้าย ในปี ค.ศ. 1534 เขายุติการระบาดของโรค โดยการฉีดวัคซีน
แต่ดูเหมือนว่าแพทย์คนอื่น ๆ จะไม่ชอบหน้าเขาเอาเสียเลย เนื่องจากทัศนคติที่ไม่เหมือนชาวบ้าน และริษยาในความสำเร็จที่เขาได้รับ แพทยสภาไม่ให้การรับรองแก่พาราเซลซัสนานเกือบสิบปี ภายหลังเขาต้องถูกเนรเทศออกไปจากเมือง หลังจากที่เขาเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1541 ชื่อเสียงของเขาจึงกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง วงการแพทย์สมัยใหม่เป็นหนี้บุญคุณของพาราเซลซัสอย่างใหญ่หลวง
คลิโอดน่า แม่มดแห่งดรูอิด (Druidess Cliodna)
ในเทพนิยายของชาวไอริช คลิโอดน่าทำหน้าที่ในหลายบทบาท คือเป็นตั้งแต่เทพีแห่งความงามไปจนถึงผู้ครองดินแดนหลังความตาย นอกจากนี้ คลิโอดน่ายังทำหน้าที่เป็นเทพีแห่งท้องทะเลอีกด้วย มีความเชื่อกันว่า คลิโอดน่าจะปรากฎร่างขึ้นทุกครั้ง เมื่อคลื่นลูกที่เก้ากระทบฝั่ง นอกจากนี้เธอยังมีนกวิเศษสามตัวที่มีอิทธิฤทธิ์ในการรักษาความเจ็นป่วยได้
อะกริบป้า (Agrippa)
ชื่อของเขาตามที่ระบุไว้ในบัตรประจำตัวพ่อมดคือ ไฮน์ริช คอร์เนริอุส อะกริบป้า เขาเป็นพ่อมดแห่งยุคเรอเนอซองซ์ (ประมาณคริสตศตวรรษที่ 14 - 16) เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1486 ที่เมืองไฮน์ริช คอร์เนลิส ใกล้กับเมืองโคโลญจ์ในปัจจุบัน ประเทศเยอรมัน อะกริบป้าเป็นชื่อที่ผู้คนเรียกเขาด้วยความยกย่องในคุณงามความดีที่เขามีต่อบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง
อะกริบป้าเคยทำมาหลายอาชีพ เป็นมาแล้วทั้ง แพทย์ ทนายความ หมอดู และนักบำบัดอาการทางจิต เขามีเพื่อนฟูงมากมายพอ ๆ กับจำนวนศัตรูเลยเช่นกัน ผู้คนยกย่องให้อะกริบป้าเป็นผู้วิเศษ เนื่องจากในปี ค.ศ. 1529 เขาได้เขียนตำราว่าด้วยเวทมนตร์วิเศษขึ้นมาเล่มหนึ่ง ชื่อ On Occult Philosophy ตำรานี้มีทั้งตัวอักษรภาษาฮิบรูและภาษากรีก เขายืนยันว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้จักกับพระเจ้าคือการเรียนรู้อำนาจวิเศษ คริสตจักรลงความเห็นว่าอะกริบป้าคือพวกคนนอกรีต พวกมักเกิ้ลจึงจับตัวเขาไปขังคุก อะกริบป้าเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1535 ว่ากันว่า การ์ดสะสมภาพกบช็อคโกแลตของอะกริบป้าหาได้ยากที่สุดเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น