วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ตำนาน เมดูซ่า (Madusa)

เมดูซ่า เป็นชื่อที่ทำให้นึกถึงนางมารร้ายที่มีผมเป็นงูแต่คำว่า เมดูซ่า-Medusa เป็นคำที่มีมานานมากแล้วที่ยังคงเป็นรากศัพท์ไว้ในหลายๆภาษาโบราณ
เช่นในภาษาสันสกฤตคือ "เมธา"
ในภาษากรีกคือ  Metis
และในภาษาอียิปต์โบราณคือคำว่า Met หรือ Maat


มีแหล่งกำเนิดจากตำนานของประเทศลิเบีย
ที่นำเข้ามารวมในตำนานกรีก
ทีหลังเป็นที่นับถือของชาวลิเบียโบราณว่าเป็น เทพแห่งงู
หรือเจ้าป่าเจ้าเขาผู้มีอำนาจดุร้าย
ในยุโรปสมัยโบราณยุคหินงูยังไม่ได้เป็นสัญญลักษณ์ของความชั่วร้ายซึ่งเกิดขึ้นมาภายหลัง
หากเป็นสัญญลักษณ์ของพลังอำนาจเหนือธรรมชาติ
และก็อาจเป็นไปได้ที่ว่า เมดูซ่า เจ้าแม่ผู้ทรงพลังจากสังคมโบราณ
เป็นเค้าเงื่อนที่ชาวอินเดียนำไปผูกเป็น  เจ้าแม่ทุรคา หรือ  กาลี  ก็ได้

เมดูซ่า  นั้นแต่เดิมทีหลายพันหลายหมื่นปีมาแล้วก็คงเป็นเจ้าป่าเจ้าเขาที่มีอำนาจ
มีผมขอดหยิกหยักถักเป็นเปียเล็กๆทั่วทั้งหัวแบบชาวอัฟริกัน  (แบบที่เรียกว่าdreadlocks)  ที่ดูคล้ายงู

ในสังคมดึกดำบรรพ์ที่ยังนับถือยกย่องให้ผู้หญิงเป็นใหญ่
ภายหลังที่สังคมกรีกกลายมาให้ผู้ชายเป็นใหญ่
ภาพพจน์ของ  เมดูซ่า  ก็ค่อยๆเปลี่ยนไป
เนื่องจากเทพบุรุษเข้ามาแทนที่เทพสตรี
ในสังคมกรีกในช่วงพันปีแรกของอาณาจักรกรีกจนมาถึงประมาณ๖๐๐ปีก่อนคริสตศตวรรษ
วิหารบูชา เมดูซ่า ก็ถูกทำลายลงไปไม่เหลือซาก!!
ชาวกรีกคงเอามาผูกเป็นตำนานให้เป็นนางมารร้ายไป
ในภายหลังชื่อของเธอก็กลายไปเป็นเพียงตำนานแห่งความพ่ายแพ้ที่ถูกฆ่าโดย  เพอร์ซีอุสแล้วชาวกรีกก็ถ่ายทอดพลังอำนาจของ เมดูซ่ามาให้เทพ อะธีน่า ผู้เป็นเทพสตรีตัวอย่างของสังคมที่ชาวกรีกต้องการใช้เป็นแบบอย่างคือ
รักษาพรหมจรรย์และรับใช้ครอบครัว
ยึดมั่นในความซื่อสัตย์จงรักภักดีและเทิดทูน  เทพเซอุส พระบิดาเหนือตนเอง

ามตำนานกรีกนั้น เมทิส แม่ของ เมดูซ่า และพี่น้องอีกสองสาวทั้ง  เมดูซ่า  และพี่สาวแต่เดิมนั้นเป็นสาวงามมาก
ต่อมา  เมทิส  แม่ของนางถูก  เทพเซอุส  ข่มขืนแล้วกลืนลงท้องไป

เมทิส เป็นเจ้าแห่งปัญญาและสามารถแปลงร่างต่างๆได้
เซอุส จึงอาศัยพลังปัญญาและเวทย์มนต์ของ เมทิส มาเพิ่มอำนาจให้ตัวเอง
ช่วยให้  เซอุส  มีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าเทพทั้งปวง และยังสามารถแปลงร่างได้ดังใจนึก
ไปเอาสตรีมากมายเป็นภรรยาได้

ในภายหลังพลังของ เมทิส สำลักออกทางหน้าผากของ
เซอุสกลายเป็น เทพธิดาอะธีน่า ผู้ได้รับมรดกทางปัญญาจาก เมทิส ผู้เป็นแม่
ตั้งแต่เกิดมา  อะธีน่า  ก็ถือ  เมดูซ่า  เป็นศัตรูคู่แค้นที่จักต้องพิฆาตให้ดับสิ้น
เพราะในบรรดาพี่น้อง มีแต่  เมดูซ่า  ผู้เดียวที่เป็นมนุษย์

พี่สาวชาวกอร์กอนทั้งสองร่วมท้องแม่ของเธอมีสถานะเป็นเทพ
จึงฆ่าไม่ตายอะธีน่า  จึงหันมาหาทางทำลาย เมดูซ่า  แต่ผู้เดียวในบรรดาลูกแม่เดียวกันทั้งหมด
วันหนึ่งใน วิหารอะธีน่า ที่ชาวกรีกสร้างไว้บูชาสักการะแต่ละเทพเป็นวิหารๆไปเทพอะธีน่า เป็นเทพอุปถัมภ์ของสาวพรหมจารี ที่สตรีพรหมจรรย์ชาวมนุษย์มักไปบูชา
สาวงาม เมดูซ่า ที่มีชายมากหลายหมายปอง ก็ไปบูชา เทพอะธีน่า ยังวิหารตามปกติ
เทพโพไซดอน ได้ประจักษ์เห็นความงามของนางแล้ว ก็ต้องการครอบครองโดยใช้กำลังขืนใจ
อะธีน่า จึงได้โอกาสใส่ความว่า เมดูซ่า บังอาจลบหลู่นางด้วยการสู่สมในวิหารอันศักดิ์สิทธิ์
แล้วฉวยโอกาสสาบ เมดูซ่า ให้กลายเป็นมารร้ายน่าเกลียดน่ากลัว!!
และสาปให้ผมอันสวยงามลือชื่อของนาง กลายเป็นงูเต็มหัว!!
จากสาวงามเลื่องชื่อต้องมากลายเป็นมารร้ายที่น่าชิงชังขยะแขยง จนใครที่ได้เห็นจะต้องกลายเป็นหินไป

เมดูซ่า  ทั้งชอกช้ำ  ทั้งอับอาย 
ก็แปรความเจ็บช้ำที่ได้รับให้กลายเป็นความเคียดแค้นชิงชังต้องการทำร้ายหมายมาดทุกชีวิตที่ขวางหน้าโดยทำให้กลายเป็นหินไป
จากการมองหน้าของนางเป็นการตอบโต้ความอยุติธรรม ที่ทำให้นางต้องรับ ชะตากรรมอันโหดร้าย
เมดูซ่า  จึงกลายเป็นมารร้าย ผู้เป็นที่กล่าวขวัญถึง มากที่สุดในตำนาน กรีก มีทั้งภาพสลัก รูปปั้นต่างๆของ เมดูซ่า ตามวิหารต่างๆมากมาย 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น